- ความมั่นคงทางอาชีพ: พนักงานในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก (แม้ไม่ใช่สายการผลิตโดยตรง เช่น ฝ่ายขาย การตลาด บัญชี หรือโลจิสติกส์) อาจได้รับผลกระทบหากบริษัทต้องปรับลดขนาดองค์กรหรือชะลอการเติบโต
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน
- เจ้าของกิจการ (เน้นตลาดในประเทศ): ได้รับผลกระทบทางอ้อม หากเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคทุกระดับลดลง ก็จะกระทบยอดขายของธุรกิจที่พึ่งพาการบริโภคภายในประเทศเช่นกัน นอกจากนี้ อาจเผชิญการแข่งขันจากสินค้าส่งออกที่ไม่ได้ไปสหรัฐฯ แล้วหันมาทำตลาดในประเทศมากขึ้น
“อำนาจทางเศรษฐกิจ คือ อำนาจทางการเมือง”
- การลงทุนในประเทศ: ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่ส่งออกไปสหรัฐฯ หรืออยู่ในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง อาจชะลอการลงทุนและการขยายกิจการ เพื่อรอดูความชัดเจนของนโยบายและผลกระทบ
โปรดเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่เพื่อความปลอดภัยของท่าน
นอกจากผลกระทบโดยตรงแล้ว นโยบายภาษีครั้งนี้ยังส่งผลกระทบทางอ้อมต่อเศรษฐกิจไทยผ่านช่องทางที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น:
- กลุ่มเจ้าของกิจการ นักลงทุน และผู้มีฐานะ แม้จะมีทรัพยากรมากกว่า แต่ก็เผชิญความท้าทายที่หนักหน่วงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจส่งออกที่ต้องรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น ยอดขายที่ลดลง และการแข่งขันที่ดุเดือด ขณะที่นักลงทุนต้องเผชิญกับความผันผวนและความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการบริหารจัดการสินทรัพย์และความมั่งคั่ง
ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า เช่น ข้อต่อ ลวดเกลียว สลิง Trump ตั้งกำแพงภาษี ตะปู สะพานและชิ้นส่วน ประตูน้ำ เครื่องสุขภัณฑ์ ของใช้ในครัวและโต๊ะอาหาร
ตามที่นายทรัมป์เปิดเผย สหรัฐฯ ประเทศที่จะถูกเก็บภาษีต่างตอบแทนได้แก่
มาตรการภาษีชุดใหม่ที่ประกาศใช้ ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักสองส่วน ที่ต้องทำความเข้าใจอย่างชัดเจน:
- ขอบเขต: บังคับใช้กับสินค้านำเข้า ทุกประเภท จาก ทุกประเทศ ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม “ไทยยังต้องเผชิญกับการไหลบ่าของสินค้าจากประเทศอื่นๆ ที่แสวงหาตลาดทดแทนสหรัฐฯ ดังนั้น การเร่งสร้างมาตรการรองรับ รวมถึงการเพิ่มความตระหนักให้ผู้ซื้อพิจารณาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการขาดดุลการค้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”
สินค้าส่งออกหลักจำนวนมากของไทยพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ สูง และจะได้รับผลกระทบโดยตรง: